บริการออกแบบตกแต่งภายใน บิ้วอินคาเฟ่ ร้านอาหาร โดย Living Inhabit
Living Inhabit ให้บริการออกแบบตกแต่งภายในคาเฟ่ ร้านกาแฟ และร้านอาหารแบบครบวงจร ด้วยทีมอินทีเรียร์มืออาชีพที่เข้าใจทั้งดีไซน์ ฟังก์ชัน และอารมณ์ของ “ร้านที่ถ่ายทอดตัวตนแบรนด์ของคุณได้อย่างชัดเจน”
เราเริ่มต้นจากการพูดคุยเพื่อเข้าใจแนวคิดของร้านและพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย ก่อนวางผังร้าน เลือกโทนวัสดุ และสร้างภาพ 3D ให้เห็นลุคของร้านจริงก่อนเริ่มก่อสร้าง
ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านใหม่ รีโนเวทร้านเดิม หรือทำคาเฟ่ขนาดเล็ก Living Inhabit พร้อมดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่ไอเดียไปจนถึงติดตั้งงานจริงแบบ Turnkey Service
เราออกแบบทั้งในมุมของความสวยงาม และ การใช้งานจริง เช่น การวางเคาน์เตอร์ ระบบแสงที่ช่วยดึงบรรยากาศให้โดดเด่น ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินที่จัดวางอุปกรณ์ได้อย่างมีระบบ
รองรับทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Minimal, Modern, Japandi, Industrial หรือสไตล์เฉพาะของร้านคุณ
เราสร้าง “พื้นที่ที่ลูกค้าอยากกลับมาอีก และเจ้าของร้านใช้งานได้สะดวกทุกวัน”
✅ เหมาะกับร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านกาแฟทุกขนาด
✅ ดูแลงานตั้งแต่ดีไซน์ บิ้วอิน ไปจนถึงควบคุมหน้างานจริง
✅ พร้อมรับประกันงานติดตั้งสูงสุด 1 ปี

พื้นที่การออกแบบตกแต่งที่สำคัญภายในคาเฟ่ ร้านอาหาร
หน้าร้าน คือจุดแรกที่ดึงดูดลูกค้าให้สนใจและตัดสินใจเดินเข้าร้าน การออกแบบควรสะท้อนตัวตนของแบรนด์อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบฟาซาด (Facade), โลโก้, วัสดุ หรือสีที่ใช้ นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงการจัดวางป้ายร้าน, ทางเข้าที่ชัดเจน และแสงธรรมชาติ เพื่อให้หน้าร้านโดดเด่นและชวนถ่ายรูป สร้างความน่าจดจำตั้งแต่แรกเห็น
โซนต้อนรับควรออกแบบให้ดูเป็นมิตร ชัดเจน และน่าเชื่อถือ เพราะเป็นจุดที่ลูกค้าติดต่อพนักงานหรือรอคิวในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจใช้เคาน์เตอร์ดีไซน์พิเศษ, ป้ายเมนู, หรือการตกแต่งผนังที่บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ พร้อมแสงไฟที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้อบอุ่นและเป็นกันเอง
พื้นที่รับประทานอาหารเป็นโซนหลักของร้านที่ต้องคำนึงทั้งเรื่องฟังก์ชันและอารมณ์ลูกค้า ควรออกแบบให้ที่นั่งจัดวางอย่างลงตัว มีระยะห่างเหมาะสม ไม่อึดอัด พร้อมเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สอดคล้องกับคอนเซปต์ร้าน เช่น โต๊ะไม้สำหรับสไตล์ธรรมชาติ หรือโต๊ะหินสำหรับลุคหรูหรา โดยคุมโทนสีและแสงให้ได้อารมณ์สอดคล้องกับประเภทอาหาร
เคาน์เตอร์ถือเป็นจุดศูนย์กลางของร้านที่มีทั้งการสั่งอาหาร การชงเครื่องดื่ม และการรับออเดอร์ การออกแบบควรเน้นความชัดเจนในการแยกโซนลูกค้า–พนักงาน ใช้วัสดุที่ทนต่อการใช้งาน เช่น หินสังเคราะห์ ลามิเนต และเลือกดีไซน์ที่ทั้งโดดเด่นและใช้งานสะดวก ไม่ว่าจะเป็นแบบยืนหรือแบบ Takeaway
ครัวเป็นหัวใจของร้านที่ต้องออกแบบอย่างมีระบบและปลอดภัย ทั้งในด้านการวางตำแหน่งอุปกรณ์ การระบายอากาศ และการแยกพื้นที่ปรุงอาหาร–ล้างจาน–เก็บวัตถุดิบ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสุขอนามัย พร้อมวางฟังก์ชันให้เหมาะกับจำนวนพนักงาน เพื่อให้การทำงานในครัวไหลลื่นและมีประสิทธิภาพ
ในยุคที่ลูกค้าชอบแชร์ภาพบนโซเชียล การมีมุมถ่ายรูปหรือมุมโชว์สินค้าสวย ๆ ถือเป็นสิ่งจำเป็น การออกแบบควรเน้นความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ เช่น มุมเก้าอี้พร้อมไฟตกแต่ง ผนังมี Texture หรือโลโก้ร้านบนกำแพงที่ดูสะดุดตา ช่วยให้ร้านกลายเป็นจุดหมายปลายทางของสายถ่ายรูปและเพิ่มการรับรู้แบรนด์
แม้จะเป็นพื้นที่เล็ก แต่ห้องน้ำในร้านอาหารหรือคาเฟ่ก็ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะเป็นส่วนที่ส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้าโดยตรง ควรออกแบบให้สะอาด แสงเพียงพอ และใช้วัสดุกันความชื้น พร้อมดีไซน์ที่สอดคล้องกับภาพรวมของร้าน เช่น ใช้กระเบื้องลายเฉพาะ ผนังโทนเดียวกับห้องหลัก หรือกระจกที่ให้ความรู้สึกเรียบหรู
นอกจากโซนหลักแล้ว ร้านอาหารหรือคาเฟ่ยังมีพื้นที่รองที่ควรออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งาน เช่น ห้องเก็บของหลังร้าน, ชั้นวางสต๊อก, ห้องพักพนักงาน, มุมรับออเดอร์ Delivery, พื้นที่จัดเตรียม Takeaway, หรือแม้แต่ มุมพักเบรกสำหรับพนักงาน การออกแบบพื้นที่เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การดำเนินงานของร้านเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
นอกจากโซนหลักแล้ว ร้านอาหารหรือคาเฟ่ยังมีพื้นที่รองที่ควรออกแบบให้สอดคล้องกับการใช้งาน เช่น ห้องเก็บของหลังร้าน, ชั้นวางสต๊อก, ห้องพักพนักงาน, มุมรับออเดอร์ Delivery, พื้นที่จัดเตรียม Takeaway, หรือแม้แต่ มุมพักเบรกสำหรับพนักงาน การออกแบบพื้นที่เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การดำเนินงานของร้านเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
คู่มือสไตล์ตกแต่งภายในเบื้องต้น สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่อยากเริ่มต้นอย่างถูกทาง
Modern
เส้นสายชัดเจน เน้นฟังก์ชัน ใช้วัสดุผิวเรียบและโทนสีโมโนโครม เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความเรียบ เท่ และเป็นสมัย
Modern Luxury
ผสานความหรูหราแบบกลมกล่อมกับความมินิมอล ใช้วัสดุคุณภาพ เช่น หินอ่อน กระจก ทองเหลือง ดีไซน์เน้นความพรีเมียมแต่ไม่เว่อร์
Modern Classic
สไตล์คลาสสิกที่ถูกตีความใหม่ในรูปแบบร่วมสมัย เช่น ผนังบัวประดับกรอบ ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว เทา ดำ และไฟซ่อนแสงอุ่น
Modern Contemporary
อิสระมากขึ้นในเส้นสายและองค์ประกอบ ใช้โทนสีธรรมชาติหรือ Earth tone ผสมกับของตกแต่งดีไซน์เฉพาะตัว สื่อถึงความ “ใหม่” แบบไม่จำกัดกรอบ
Luxury
หรูหราเต็มรูปแบบ ด้วยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง สีทอง ทองแดง เบจ ขาวดำ เฟอร์นิเจอร์บิลต์อินลายหิน ผ้ากำมะหยี่ กระจกเงา และดีไซน์ซับซ้อนเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ “พรีเมียม” ที่แท้จริง
Modern Luxury
(ใช้คำอธิบายร่วมกับหมวด 2 ได้ หรือแตกต่างเพิ่มเติมเล็กน้อยตาม above)
Classic
กลิ่นอายความสง่างามของยุโรป เช่น ฝรั่งเศสหรืออังกฤษในยุคก่อน ใช้โทนสีขาว ครีม เทาอ่อน ผสมผนังบัว เฟอร์นิเจอร์ทรงโค้ง และโคมไฟคริสตัล สื่อถึงความเรียบโก้และความสงบที่มีชั้นเชิง
Modern Classic
ลดทอนความจัดจ้านแบบ Classic ดั้งเดิมลง โดยใช้โครงสร้างคลาสสิก ผสมกับวัสดุหรือสีสมัยใหม่ เช่น พื้นไม้เรียบๆ หรือผนังโมโนโครม ทำให้ดู timeless ใช้ได้ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่
เรียบง่ายแต่มีรายละเอียด เน้นโทนสีอ่อน เช่น ขาว เทา ครีม ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้หรือผ้าลินิน เพื่อสร้างความผ่อนคลาย สบายตา และดูเป็นระเบียบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสงบ เรียบหรูแบบไม่ประดิษฐ์ และชื่นชอบพื้นที่ที่ “หายใจได้”
Loft Style เป็นสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพื้นที่โรงงาน โกดัง หรือสตูดิโอในเมืองใหญ่ ที่เน้นโชว์โครงสร้างดิบ ๆ อย่าง “เพดานเปลือย คานเหล็ก ปูนเปลือย อิฐแดง” โดยจงใจไม่ปิดผิววัสดุ ทำให้เกิดความรู้สึกจริงแท้ ดิบ เท่ และมีเอกลักษณ์
Modern Loft คือการนำความดิบของ Loft มาผสมความเนี้ยบของความโมเดิร์น เช่น ผนังปูนเปลือยผสานเฟอร์นิเจอร์บิลต์อินเรียบหรู พื้นไม้สีเข้มกับโซฟาหนัง หรือการใช้โครงเหล็กสีดำกับแสง warm light ทำให้เกิดอารมณ์ “บ้านในเมืองที่มีสไตล์” เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ต้องการความเท่ เนี้ยบ มีคาแรกเตอร์ และไม่ซ้ำใคร
แนวนี้ยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในไทยมากนัก แต่สื่อสารได้ว่าเป็นสไตล์ที่เน้น ความสดใส มีสีสัน และสนุกกับการตกแต่ง เราอาจเรียกว่า:
-
Trendy Style
-
Playful Interior
-
Colorful / Fun Living
-
หรือใช้คำว่า “บ้านแนวครีเอทีฟ” ก็ได้
จุดเด่น ของสไตล์นี้คือการใช้ “สี” เพื่อสร้างอารมณ์ เช่น โซฟาชมพู ผนังฟ้า เฟอร์นิเจอร์ทรงสนุก หรือแสงนีออนบางจุด มักเน้นการตกแต่งที่ดู ‘สดใหม่’ ไม่ต้องเป๊ะทุกมุมแต่ “มีพลัง” และสื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ เหมาะกับเจ้าของบ้านรุ่นใหม่ที่ชอบสื่อความเป็นตัวเองผ่านพื้นที่

ทำไมต้องใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในกับเรา ?

1. สำรวจหน้างานฟรี :
เราพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำด้านการออกแบบตกแต่งภายใน

2. รับประกันผลงาน :
เรามีบริการหลังการขาย หมดกังวลปัญหาหลังส่งมอบงาน

3. งบไม่บานปลาย :
เราทำในรูปแบบ Turnkey จึงสามารถควบคุมงบประมาณที่ลูกค้ากำหนดได้

5. มีบริการครบ :
เราให้บริการเกี่ยวกับงานออกแบบตกแต่งภายในครบวงจร

4. ไม่ทิ้งงาน :
เรามีสัญญาว่าจ้างการทำงานทั้งออกแบบภายในและงานรับเหมาก่อสร้าง รวมทุกงานเฟอร์นิเจอร์ทุกรายการ

6. มีวัสดุหลากหลาย :
เรามีวัสดุให้เลือกหลายเกรด Normal / Standard / Premium ขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้
เริ่มต้นโปรเจกต์ของคุณกับทีมมืออาชีพ ที่พร้อมออกแบบ และ สร้างสรรค์
รับประกันผลงานนาน 1 ปี กับ Living Inhabit
ตัวอย่างผลงาน
KULU KULU
ออกแบบร้าน Handroll Bar ในสไตล์ Modern Japandi ที่ผสานความเรียบง่ายและความอบอุ่นไว้อย่างกลมกลืน ด้วยโทนสีขาวสะอาดตา วัสดุไม้ธรรมชาติ และแสงธรรมชาติที่ส่องถึงตลอดวัน พื้นที่ภายในถูกจัดสรรอย่างลงตัว พร้อม เคาน์เตอร์บาร์สำหรับเสิร์ฟซูชิแบบสดใหม่ และมุมที่นั่งสำหรับลูกค้าทั้งเดี่ยวและกลุ่ม
view projectDoodle Izakaya
ตกแต่งภายในร้านอาหารในบรรยากาศที่เรียบเท่และอบอุ่น ด้วยโทนสีธรรมชาติและวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสดิบแต่พรีเมียม สะท้อนสไตล์แบบ Modern Industrial ที่เข้าถึงง่าย พื้นที่ภายในออกแบบให้โปร่งโล่ง พร้อมจัดวางโซนรับประทานอาหารไว้อย่างลงตัว เสริมด้วยงานบิ้วอินที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและอารมณ์ของร้าน
view projectRoutine Cafe
ออกแบบร้านคาเฟ่ให้มีความเรียบง่ายในแบบ Cozy Minimal โดยใช้โทนสีอบอุ่นและวัสดุธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง พื้นที่ภายในจัดวางอย่างเป็นสัดส่วน ทั้งโซนสั่งเครื่องดื่ม มุมนั่งทำงาน และมุมพักผ่อน กลมกลืนกับคอนเซปต์ เหมาะกับคาเฟ่ที่ต้องการสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้ลูกค้ากลับมาเป็น “รูทีน” ได้ทุกวัน
view projectคำถามที่พบบ่อย ?
การตกแต่งภายในคือการออกแบบพื้นที่ภายในอาคาร เพื่อให้เกิดความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย โดยอาจรวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์, การเลือกวัสดุ, สี, แสงสว่าง และองค์ประกอบต่าง ๆ ในพื้นที่
เราให้บริการออกแบบตกแต่งภายใน และรับเหมาก่อสร้างภายใน สำหรับบ้าน คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร คาเฟ่ โชว์รูม ออฟฟิศ และโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ แบบครบวงจร ตั้งแต่แนวคิด การออกแบบ ไปจนถึงการก่อสร้างและส่งมอบงาน
ได้เลย! เรามีบริการให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อประเมินความต้องการของลูกค้าและแนวทางการดำเนินงานเบื้องต้น
โดยทั่วไปประกอบด้วย:
-
นัดหมายและพูดคุยความต้องการ
-
นำเสนอแนวคิดและแบบร่าง (Design Proposal)
-
สรุปแบบและเสนอราคา
-
ดำเนินงานตกแต่ง/ก่อสร้าง
-
ส่งมอบงานพร้อมตรวจสอบคุณภาพ
โดยทั่วไประยะเวลาในการออกแบบอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และความซับซ้อนของโปรเจกต์ ส่วนการผลิตและติดตั้งอาจใช้เวลาเพิ่มเติมอีก 4-8 สัปดาห์
ได้ครับ เรามีบริการเฉพาะงานออกแบบ (Interior Design) พร้อมจัดทำแบบแปลน 3D, Mood & Tone, Material Board และรายการวัสดุเพื่อใช้ในการดำเนินการก่อสร้างต่อได้
ได้แน่นอนครับ! ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุ สี และฟังก์ชันต่างๆ ตามความต้องการ เราจะให้คำแนะนำเพิ่มเติมในด้านความเหมาะสมและงบประมาณ
-
โทร: +669 7259 1868
-
LINE: https://lin.ee/UNqFRFs
-
Facebook: Living.Inhabit
-
IG: @living_inhabit
-
เว็บไซต์: www.living-inhabit.com
เริ่มต้นไอเดียของคุณกับเรา
Living Inhabit ช่วยออกแบบและตกแต่งภายในอย่างมืออาชีพ
ด้วยทีมงานที่เข้าใจทั้งฟังก์ชันและสไตล์ของคุณ
- ✔ ปรึกษาเบื้องต้นฟรี
- ✔ ทีมออกแบบมืออาชีพ
- ✔ ครบทั้งออกแบบและสร้างจริง
กรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับ และเริ่มต้นโปรเจกต์ของคุณได้เลย!

ภาพตัวอย่างผลงงานออกแบบของเรา