รู้จักสไตล์ตกแต่งภายในสุดสมดุล ที่ทั้งเรียบ เท่ และอยู่ได้นาน “เรียบแต่ไม่จืด โมเดิร์นแต่ไม่แข็ง”หากคุณกำลังมองหาสไตล์ที่ทันสมัย ใช้ได้นาน และมีเสน่ห์ในความเรียบง่ายแบบไม่ธรรมดาModern Contemporary (โมเดิร์น คอนเทมโพรารี) อาจเป็นสไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ วันนี้ Living Inhabit จะพาไปรู้จักสไตล์นี้ให้ชัดขึ้น พร้อมเคล็ดลับในการตกแต่ง และตัวอย่างวัสดุ/สีที่นิยมใช้เพื่อให้คุณเห็นภาพว่าบ้านในฝันแบบนี้ “ทำได้จริง” และ “อยู่ได้นาน” 🧩 Modern Contemporary คืออะไร? Modern Contemporary คือการผสมผสานระหว่าง “ความโมเดิร์น” (modern) ที่เน้นความเรียบ เท่ และชัดเจนในเส้นสายกับ “ความร่วมสมัย” (contemporary) ที่ปรับให้เข้ากับชีวิตปัจจุบัน มีความนุ่มนวลมากขึ้น เหมาะกับการอยู่อาศัยจริงในทุกวัน จุดเด่นคือความ “บาลานซ์”ระหว่างความหรูเล็ก ๆ ความเรียบง่าย และความอบอุ่น 🎨 โทนสีที่ใช้ 🪵 วัสดุยอดนิยม 🪑 เฟอร์นิเจอร์แบบไหนเข้ากับสไตล์นี้? 💡 แสงและการจัดวาง 🏡 เหมาะกับใคร? 🛠 ถ้าอยากตกแต่งสไตล์นี้ […]
Author Archives: Living_Inhabit
เปลี่ยนบ้านเดิมให้กลับมาน่าอยู่ ด้วยวิธีที่คุ้มค่าและไม่เจ็บงบ บ้านเก่าที่เราผูกพัน อาจดูโทรมตามกาลเวลาแต่รู้ไหมว่า… บางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องรื้อทั้งหมดเพื่อให้บ้านดูใหม่อีกครั้ง! วันนี้ Living Inhabit อยากมาแชร์ “7 เทคนิครีโนเวทบ้านเก่าให้ดูเหมือนใหม่”เน้นทำเฉพาะจุดที่เห็นผลจริง โดยไม่ต้องรื้อ ไม่ต้องทุบทั้งหลังเหมาะสำหรับใครที่อยากให้บ้านกลับมาสวย ใช้งานได้ดี และอยู่สบายอีกครั้ง 🪟 1. เพิ่มแสงธรรมชาติให้บ้านสว่างและโปร่งขึ้น บ้านเก่ามักมีช่องแสงน้อย ทำให้ภายในดูมืดและอับแค่คุณ “เปลี่ยนหน้าต่างบางบาน” ให้เป็นบานใหญ่หรือเพิ่มช่องแสงแนวสูงก็ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความสดใสได้มากขึ้นทันที เคล็ดลับ: ใช้ผ้าม่านโปร่งสีขาว และเลือกเฟอร์นิเจอร์โทนสว่างเพื่อเสริมความรู้สึกโล่ง 🧱 2. เปลี่ยนพื้นผิว (Surface) แทนการรื้อโครงสร้าง ไม่จำเป็นต้องรื้อผนังหรือปูพื้นใหม่เสมอไปเพียงแค่ “เปลี่ยนวัสดุผิวสัมผัส” เช่น ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศบ้านได้อย่างชัดเจนแบบไม่ต้องรื้อ 🪑 3. เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ “ให้สื่อถึงสไตล์ที่คุณต้องการ” เฟอร์นิเจอร์ในบ้านคือภาพสะท้อนรสนิยมการเลือกชุดโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวาง หรือโซฟาใหม่ที่เข้ากับ Mood & Tone ที่คุณชอบ เช่น Modern, Japandi, Minimal Loftจะช่วยให้บ้านเก่าดู “มีชีวิตใหม่” ได้ทันทีโดยไม่ต้องทุบ 🖼 4. […]
คู่มือเตรียมตัวแบบเข้าใจง่าย ก่อนเริ่มรีโนเวทบ้านให้สวย ฟังก์ชันครบ และใช้งานได้จริง บ้าน คือพื้นที่ที่เรากลับมาเพื่อพักกาย พักใจและเมื่อบ้านเก่าเริ่มไม่ตอบโจทย์ การ “รีโนเวท” ก็อาจเป็นคำตอบที่ใช่ วันนี้ Living Inhabit ขอมาเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ว่าถ้าอยากเริ่ม รีโนเวทบ้าน ไม่ว่าจะทั้งหลังหรือแค่บางส่วน เราควรเตรียมตัวยังไงให้ไม่หลุดงบ ไม่หลุดแผน และได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจที่สุด ✅ 1. เริ่มจาก “เป้าหมาย” ที่ชัดเจน ก่อนจะพูดถึงวัสดุ หรือสไตล์การตกแต่ง อยากชวนถามตัวเองก่อนว่า…“เรารีโนเวทบ้านเพื่ออะไร?” การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้ทุกการตัดสินใจหลังจากนี้—ตั้งแต่งบประมาณ ไปจนถึงทีมงาน—ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ 💸 2. วางงบประมาณแบบมีเผื่อ และเข้าใจโครงสร้างค่าใช้จ่าย การ รีโนเวทบ้าน ไม่เหมือนซื้อของที่รู้ราคาแน่นอนเพราะบางครั้งมีเรื่อง “ใต้พื้น-หลังผนัง” ที่เรามองไม่เห็น เช่น ระบบท่อน้ำ ท่อไฟ หรือโครงสร้างที่ต้องเสริมแรง Living Tipแนะนำให้เผื่องบไว้ 10–20% จากงบประมาณหลัก เพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด เช่น 📏 3. สำรวจบ้านเดิมแบบละเอียดก่อนลงมือ ก่อนจะฝันถึงห้องใหม่สไตล์มินิมอลหรือครัวปูนเปลือยสุดเท่สิ่งสำคัญคือ “รู้จักบ้านเดิมให้ดี” […]
พื้นไม้เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมาก สำหรับการนำมาใช้ทำวัสดุพื้น ปัจจุบันมีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เจ้าของบ้านสมัยใหม่เลือกใช้ไม้แต่ละประเภทแตกต่างกันออกไป บทความนี้จะอธิบายประเภทของวัสดุพื้นไม้ชนิดต่างๆ และสาเหตุ/ปัจจัยในการเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่แตกต่างกัน พื้นไม้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะมีอยู่ 3 ชนิดได้แก่ พื้นไม้จริง (Wood Flooring) วัสดุประเภทพื้นไม้จริง (wood flooring) ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยก็ยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยลวดลายของผิวสัมผัส และคุณค่าของไม้จริงนั้นก็ ยังไม่มีวัสดุทดแทนตัวใดๆมาแทนได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีวัสดุทดแทนไม้ ผลิตออกมาใช้กันมากมายในตลาด บางชนิดมีที่ลวดลายที่มีเสน่ห์ แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใช้ภายนอกอาคาร หรือ พื้นที่กลางแจ้งได้ เป็นวัสดุที่เหมาะสมเเก่การใช้ภายนอกอาคารโดยเฉพาะ สมัยก่อนบ้านทุกหลัง ไม่ว่าจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ ในบ้าน หรือ งานไม้ต่างๆในสวน ก็ล้วนแต่ใช้ไม้จริง Raw material ลักษณะของพื้นไม้จริง พื้นไม้ (wood flooring) ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งคนไทยนิยมใช้ไม้มาตั้งแต่สมัยอดีตกาล เนื่องด้วยไม้ในอดีตเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ปลูกทดแทนได้ ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำพื้นเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้สัก เป็นต้น สามารถนำมาใช้ได้ทั้งบ้านไม้ และบ้านปูน กรณีเป็นบ้านไม้ใช้วิธีตอกยึดกับคานไม้ แต่ปัจจุบันนิยมสร้างบ้านปูนกันมาก โดยทำการเทพื้นคอนกรีตก่อน จากนั้นปูพื้นไม้ทับไปอีกทีด้วยกาวสำหรับงานปูพื้น เนื้อไม้จะให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า สีสันอบอุ่น ดูหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ปัจจุบันนี้ไม้เริ่มหายากจึงมีราคาที่สูงมาก […]
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส คือ ระบบไฟที่ใช้ภายในบ้านเรือน มีการจ่ายไฟที่เหมาะสมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน แต่ระบบไฟฟ้า 3 เฟส จะใช้กับงานด้านอุสาหกรรมที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ต้องการใช้ไฟฟ้าในปริมาณมากและอาจจะมีการเชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อไปใช้ในอาคารต่างๆ บนพื้นที่เดียวกัน ซึ่งระบบไฟฟ้าทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันในเรื่องแรงดันไฟฟ้าที่เห็นชัด คือ ดังจะเห็นได้จากปลั๊กไฟตามบ้านที่เห็นมีช่องเสียบอยู่ 2 ช่องนั้น ถ้าเอาไขควงสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้าลองวัดดูจะเห็นได้ว่าช่องหนึ่งจะมีไฟแดงปรากฏ แสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน แต่เมื่อเวลาใช้งานกับหลอดไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ร่วมกันทั้ง 2 สายเพื่อให้กระแสไฟฟ้าครบวงจรส่วนบางแห่งที่เห็นปลั๊กไฟมี 3 ช่องนั้นยังเป็นระบบไฟฟ้า แบบ 1 เฟสเหมือนกันแต่ช่องที่เพิ่มขึ้นมานั้นเป็นช่องที่ต่อกับสายดิน ( ground ) เพื่อให้กระแส ไฟฟ้าไหลลงดินเวลาเกิดไฟรั่วเป็นการเพิ่มความปลอดภัย และปลั๊กของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะใช้กับ ระบบสายดินนี้จะเป็นปลั๊กแบบ 3 ขาซึ่งในต่างประเทศถือเป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป 2. ระบบไฟฟ้า 3 เฟส คือ มีแรงดันไฟฟ้าระหว่าง สายไลน์ กับ ไลน์ 380 – 400 โวลท์ และแรงดันไฟฟ้าระหว่างสายไลน์ กับ นิวทรอล […]
ปัจจุบันงานบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ (Built-in furniture) ได้แพร่หลายและเป็นที่นิยมกันมาเนื่องจากเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับพื้นที่ห้องพอดีและทำตามความต้องการของลูกค้าได้ สามารถเลือกรูปแบบที่ต้องการจะให้เป็นได้ ซึ่งในบางโอกาสหากเราเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเพื่อมาวางในห้องของเราอาจจะไม่ตอบโจทย์ก็เป็นได้ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จเราไม่สามารถเลือกแบบหรือขนาดเพื่อให้เข้ากับพื้นที่ของเราได้ ในบทความนี้จึงนำเสนอไม้แต่ละประเภทที่ใช้กันในงานบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ คุณสมบัติ ข้อดี ข้อเสียของไม้แต่ละประเภท Wood (ไม้แท้ หรือ ไม้จริง) ไม้จริง หรือ ไม้แท้ สามารถแยกออกได้ ไปหลากหลายชนิดเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว เนื้อไม้ของไม้แท้ กับอายุของเนื้อไม้ที่โตแล้ว ก็มีความแตกต่างกันมากในเรื่องของราคาและการนำมาใช้งาน แม้จะเป็นไม้ประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกันก็ตาม ส่วนใหญ่จะนับเป็นแบบ หน้าไม้ท่อน ตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป เรื่องความหนาไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะเป็นไม้เนื้อเดียว จากธรรมชาติเลยจริงๆ ไม่ได้ถูกบด แล้วนำมาบีบอัดทีหลัง เหมือนไม้ที่กล่าวมาด้านบน ดังนั้นความทนทานจะสูงมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องทำการอบน้ำยาเพื่อป้องกันเชื้อรา แมลง ปลวก มอดกินไม้ ต่างๆ ด้วย ข้อดี ข้อเสีย มีความแข็งแรง ทนทาน ราคาแพงที่สุด หายาก ลวดลายสวย ธรรมชาติ ลายไม้แตกต่างแบบเฉพาะ ไม้อายุน้อย อาจไม่แข็งแรง ระวังเรื่องปลวกและแมลงต่างๆ […]
Minimal Style เป็นสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย การลดทอนรายละเอียดต่างๆให้เหลือเพียงความเรียบง่าย ตามปรัชญาแนวคิดที่ว่า “Less is more” หรือ “น้อยแต่มาก” เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ซึ่งการจัดวางต่างๆจะอยู่ในลักษณะที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์มินิมอล การตกแต่ง Minimal Styleขอบคุณรูปภาพจาก Pinterest.com ข้อดีของการตกแต่งสไตล์มินิมอล สามารถรับชมผลงานของเราได้ที่ : https://living-inhabit.com/ Facebook : https://www.facebook.com/Living.Inhabit E-mail : info@living-inhabit.com ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก theroom460.com wazzadu.com
Modern Luxury เป็นสไตล์การตกแต่งห้องที่เน้นความหรูหรา ที่มีความเรียบง่าย ไม่เน้นลวดลายและองค์ประกอบ แต่เน้นการดึงจุดเด่น และความโดดเด่นของวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายใน เช่น พื้น ผนัง ฝ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ออกมาให้มากที่สุด การตกแต่ง Modern Luxury Style ทำอย่างไรให้ดูโมเดิร์นลักชัวรี่ ? ตัวอย่างในการเลือกใช้วัสดุ Modern Luxury Style ข้อควรระวังในการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ การออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ แน่นอนจะต้องมีวัสดุมันวาว เช่น สแตนเลส หินอ่อน กระจก คริสตัล ฯลฯ แต่หากเรานำวัสดุเหล่านี้มาใช้มากเกินไปจะทำให้พื้นที่ที่เราตกแต่งนั้น ไม่มีความสมดุลของดีไซน์หรือความแข็งของดีไซน์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรจะทำคือนำวัสดุที่มี ความอบอุ่น อ่อนโยน เช่น วัสดุลายไม้ วอลล์เปเปอร์ ผ้า ฯลฯ เข้ามาช่วยในพื้นที่ให้มีความ smooth มากขึ้น เกิดความเรียบหรูที่สมบูรณ์แบบในสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ การตกแต่ง Modern Luxury Style สามารถรับชมผลงานของเราได้ที่ : https://living-inhabit.com/ Facebook : […]
สำหรับผู้ที่มีโครงการจะสร้างบ้านใหม่หรือรีโนเวทบ้านคงต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับเทรนด์การแต่งบ้านแบบบิวท์อินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งในปัจจุบัน เทรนด์การแต่งบ้านแบบบิวท์อินนั้นกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถมอบความเป็นเอกลักษณ์และความแตกต่างให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีข้อดีหลายประการ แต่ก่อนจะไปดูข้อดีของการแต่งบ้านสไตล์นี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักว่าแท้จริงแล้วการแต่งบ้านแบบบิวท์อินคืออะไร? บิ้วอิน (Built-in) คืออะไร? บิวท์อิน (Built-in) เป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทหนึ่งที่ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นมาเพื่อเจาะจงติดตั้งในห้องหรือพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบตายตัว ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งมักเป็นการสั่งทำตามความชอบและความต้องการของเจ้าของบ้าน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันมาก ได้แก่ ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ห้องครัว ตู้ในห้องน้ำ ชั้นวางทีวี ฯลฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไอเดียและความชอบของผู้เป็นเจ้าของบ้านนั่นเอง ข้อดีของการตกแต่งภายในบ้านด้วย “เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน” การทำบ้านแบบบิวท์อินมีข้อดีหลายประการ โดยประโยชน์ของการตกแต่งภายในบ้านด้วย “เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน” ที่เห็นได้เด่นชัด คือ โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินเป็นการออกแบบและสั่งทำขึ้นเฉพาะกรณี ดังนั้น คุณจึงสามารถดีไซน์ได้อย่างอิสระตามความชอบทั้งในเรื่องของดีไซน์ ขนาด วัสดุ และฟังก์ชันการใช้งาน คุณจึงจะได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวในโลกที่ไม่เหมือนใคร เหมาะกับพื้นที่ และตรงกับความต้องการอย่างแน่นอน ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า เฟอร์นิเจอร์ บิ้วอินได้ถูกออกแบบมาเพื่อห้องหรือพื้นที่นั้น ๆ โดยเฉพาะ แม้ในพื้นที่ขนาดเล็กก็สามารถเนรมิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันได้หลากหลายได้ การแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินจึงทำให้ภาพรวมของห้องดูเป็นระเบียบ เรียบร้อย สร้างความเป็นสัดส่วนให้บ้านได้ชัดเจน สวยงาม และมีขนาดพอดิบพอดีกับห้อง ประหยัดพื้นที่มากกว่าและยังสามารถประโยชน์จากพื้นที่ส่วนนั้นได้เต็ม 100% […]
การตกแต่งภายใน (Interior Design) การตกแต่งภายใน หมายถึง การออกแบบเพื่อจัดและตกแต่งสภาพแวดล้อมภายในอาคารและสถานที่ ให้เกิดความสะดวกสบายในด้านประโยชน์ใช้สอยและในด้านความสวยงาม โดยเริ่มต้นจากการวางผังเครื่องเรือน แล้วทำการพิจารณาเลือกรูปแบบ(Style) ของเครื่องเรือน จากนั้นจึงจะทำการเลือกวัสดุตกแต่ง กำหนดสีและแสง และทำการเลือกสิ่งตกแต่งเพื่อความสวยงามเป็นขั้นสุดท้าย ตัวอย่างเช่น ต้นไม้ หรือรูปภาพ เป็นต้น ขั้นตอนมาตรฐานของการออกแบบและตกแต่งภายใน 1. ขั้นตอนการให้คำปรึกษาและขอข้อมูล เป็นขั้นของการให้คำปรึกษาและขอข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบโครงการระหว่างลูกค้าและนักออกแบบ โดยอาจมีการพบปะพูดคุยกันมากกว่า 1 ครั้งเพื่อทำการปรับความเข้าใจต่างๆ และสรุปความต้องการขั้นต้นให้ตรงกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ลูกค้าจะใช้สำหรับพิจารณาความสามารถ ความน่าเชื่อถือ ของนักของแบบว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่และจะสามารถทำงานร่วมกันได้ออกมาตรงกับความต้องการหรือไม่ และสำหรับนักออกแบบก็จะใช้ขั้นตอนนี้ในการพิจารณารับงานของลูกค้าด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่แล้วในขั้นของการให้คำปรึกษาและขอข้อมูลนักออกแบบจะไม่คิดค่าบริการในการให้คำปรึกษา แต่หากมีค่าบริการก็จะคิดในราคาที่ไม่สูงมาก แต่เพื่อทำการลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นลูกค้าจึงควรสอบถามและตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการขอคำปรึกษากับนักออกแบบเสียก่อนที่จะมีการพบปะพูดคุยกัน 2. ขั้นตอนการวางผังและนำเสนอแนวคิดเพื่อการออกแบบขั้นต้น (Lay-out and Conceptual Design) เป็นขั้นตอนการวางแนวความคิดของนักออกแบบให้ลูกค้าได้นำไปพิจารณาอย่างคร่าวๆ โดยที่นักออกแบบจะต้องออกแบบและวางผังพื้นที่ใช้สอยอย่างง่าย (Lay-out Plan) รวมทั้งจะต้องทำการพิจารณารูปแบบที่จะใช้สำหรับงานออกแบบ (Style) และการแบ่งพื้นที่ใช้สอย (Zoning) ให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสม ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนมากเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ นักออกแบบจะนำนิตยสาร หรือหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งภายในมานำเสนอแนวคิดในรูปแบบต่างๆ แก่ลูกค้า ในขั้นตอนดังกล่าวลูกค้าจึงจะได้ทราบรูปแบบโดยรวมและแนวทางของงานที่จะถูกพัฒนาต่อไป 3. ขั้นตอนในการพัฒนาแบบร่างขั้นต้น […]